หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2559

คนไข้เปลี่ยนใจคุณหมอ

        คลินิกโรคหืดจะเปิดให้บริการทุกวันจันทร์ในช่วงเช้า ณ โรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่ง
วันนี้ก็เหมือนกับทุกจันทร์ที่ผ่านมานั่นแหล่ะ ที่ต้องมีแพทย์มาตรวจ มีพยาบาลคัดกรองผู้ป่วย
มีผู้ป่วยโรคหืดเป่าหลอดทดสอบสมรรถภาพปอด แล้วส่งเข้าพบแพทย์
ในการสื่อสารกับผู้ป่วยผมจะใช้ภาษาท้องถิ่นเป็นหลัก คือภาษาอีสาน ยิ่งพูดได้ถูกตามเผ่าของผู้ป่วย
การสนทนาจะยิ่งออกรสชาติ คุยกันเหมือนญาติพี่น้อง ทลายกำแพงหมอกับคนไข้ เกิดความไว้ใจ
มีความลับอะไร หรือสงสัยอะไร ก็จะถามหมอ
     
        "ผมยังสูบบุหริ่อยู่ครับ วันละ 3 มวน" ผู้ป่วยหนุ่มใหญ่ได้กล่าวกับผม จากความเชื่อใจต่อกัน
ไม่กลัวที่โดนหมอดุ หมอคอยหาทางออกร่วมกับคนไข้รายนี้ ตามบริบทชีวิตของเขา
ที่อยู่ท่ามกลางเพื่อนที่สูบบุหรี่ สูบบุหรี่แล้วทำให้กระปรี้กระเปร่าทำงานได้ ผู้ป่วยรายนี้ให้สัญญาว่า
จะพยายามเลิกบุหรี่ให้ได้ หน้าที่หมออย่างผมก็ต้องเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วย

        เวลาก็ล่วงเลยไปอย่างรวดเร็ว อีก 5 นาที จะพักเที่ยง ผมเตรียมตัวเก็บของที่จะไปกินข้าวแล้ว
เพราะคลินิกโรคหืดมักเสร็จก่อน 11.30 นาฬิกา
"คุณหมอค่ะ เหลือคนไข้อีกคนหนึ่งค่ะ" เสียงพยาบาลแจ้งให้ผมรู้ว่ายังมีผู้ป่วยอยู่ ขณะนั้นเวลาเที่ยงพอดี

        ผมรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที เพราะปกติ 11 โมงครึ่ง ก็ไม่มีคนไข้แล้ว ตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว ด้วยความเคยชินแบบเดิมๆ จึงมีอารมณ์ไม่ดีที่ไม่ได้พักเที่ยงตามเวลา บวกกับเริ่มหิวข้าวแล้ว
ในใจตอนนั้นเตรียมคำถามที่ก้องในหัวว่า ทำไมมาเอาป่านนี้ๆๆๆ
พยาบาลแง้มผ้าม่าน พาคุณตาคนหนึ่ง ผิวเข้ม ผมขาวโพลน หน้าตาซื่อซื่อ มานั่งยังเก้าอี้
ก่อนที่ผมจะยิงคำถามหักหาญน้ำใจกับคุณตานั้น พยาบาลได้กล่าวกับผมว่า

        "คุณหมอค่ะ คุณตาเพิ่งมาถึงตอนเกือบเที่ยงค่ะ"  ผมคิดในใจ แล้วมัวทำอะไรอยู่
        "คุณตาออกจากบ้าน ตั้งแต่ 8 โมงแล้วค่ะ เพิ่งมาถึง" ทำไมเดินทางนานจัง ผมสงสัยในใจ
        "คุณตาปั่นจักรยานมาคนเดียวค่ะ"

        ตอนนี้ผมเริ่มสงสารคุณตา จึงถามไปว่าคุณตาว่าเหนื่อยไหม ที่ปั่นจักรยานมา คุณตาบอกว่าเหนื่อยก็หยุดพัก เกือบสิบรอบกว่าจะมาถึงโรงพยาบาล ณ จุดนี้ผมเริ่มสะท้อนเข้ามาข้างในใจตนเอง เห็นการสั่นไหวภายในของตน เห็นความพยายามของคุณตา ทั้งๆที่เป็นโรคหืด อายุก็มาก หนทางก็ไกลสัก 13 กิโลเมตรได้
ผมนิ่งไปสักพัก!
ผมเริ่มพูดไม่ออก จุกที่อก ความหิว ความโกรธคุณตาก่อนหน้านี้ โดนไล่ที่ด้วยความเห็นใจ และสงสารจับใจ

จึงรีบตรวจและประสานกับพยาบาล ให้ดูแลเรื่องยาโรคหืด ส่งถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่ของคุณตา จะได้รับยาใกล้บ้าน
        พยาบาลใจดี นำข้าวน้ำมาเลี้ยงคุณตา พอถึงเวลาบ่ายโมงตรง ผมกับทีมงานเยี่ยมบ้าน มีภารกิจแถวชุมชนของคุณตา จึงพาคุณตาไปส่งที่บ้านด้วย
สิ่งที่เห็นคือจักรยานคู่ชีพของคุณตา อยู่ในสภาพบุโรทั่ง เก่าขึ้นสนิม อายุใช้งานน่าจะไม่ต่ำกว่าสิบปี
พอถึงบ้านคุณตา มีคุณยายนั่งรออยู่หน้าบ้าน สภาพไม่ต่างจากคุณตา คือเดินเหินลำบาก มองมายังคุณตาด้วยแววตาที่เป็นห่วงปนดีใจ เพราะคุณยายกลัวคุณตาจะไปไม่ถึงโรงพยาบาล

        ก่อนรถกระบะโรงพยาบาล จะพ้นบ้าน ผมเหลือบมองไปเห็น ฉากสนทนาระหว่างคุณตากับคุณยายที่อยู่หน้าบ้าน บรรยากาศของคนรักที่รอคอยการกลับมาของสามีด้วยความเป็นห่วง ช่างอบอุ่น อบอวล ด้วยความสุข

มันเกิดการเปลี่ยนแปลงในใจของผมแล้ว ตั้งแต่ตอนอยู่ในห้องตรวจ






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น