สุขจากการให้
มีอยู่ครั้งหนึ่งผมนั่งเครื่องบินไปลงกรุงเทพมหานคร พอเครื่องกำลังจะจอด ผู้โดยสารแทบทุกท่านต่างกุลีกุจอรีบเร่งที่จะลงจากเครื่อง ถอดสายคาดนิรภัย เสียงดัง แต๊บ แต๊บ ตั้งแต่เครื่องยังไม่จอดสนิท
ผมรอจนมีสัญญาญให้ถอดสายคาดนิรภัย จึงถอดสายคาดออก แต่ยังไม่สามารถ ไปเอากระเป๋าที่อยู่บนชั้นเหนือศีรษะได้ เพราะเพื่อนผู้โดยสารต่างยืนออหนาแน่นบนทางเดิน
พอมีจังหวะที่คนเริ่มเดิน ผมจึงแทรกเบียดตัวเอากระเป๋าบนชั้นลงมา โดยที่ไม่มีท่าทีของเพื่อนผู้โดยสารท่านใดจะชะลอให้ผมเลย
แต่แล้วมีผู้หญิง วัยทำงานท่านหนึ่ง หยุดรอให้ผมหยิบกระเป๋า ผมหันกลับไปขอบคุณ เธอยิ้มให้เล็กน้อย พร้อมผายมือ ในลักษณะให้ผมไปก่อน
ความรู้สึก ณ ตอนนั้นเป็นความรู้สึกดี ในท่ามกลางความเร่งรีบของผู้คน เหมือนต้นไม่ที่ขาดน้ำเพราะฝนแล้งมานาน ได้รับน้ำ 1 ฝักบัว ผมรู้สึกถึงความปิติ
ออกจากสนามบินดอนเมืองผมขึ้นแทกซี่ จะไปลงที่ศูนย์ประชุมแห่งหนึ่ง ปรากฎว่าผมบอกผิดที่ จนไปประชุมสาย จึงมองมุมบวกว่า ก็ดีนะครั้งหน้าจะได้ไม่หลงทางอีก
หลายวันต่อมา ผมได้ส่งต่อความรู้สึกดีจากการให้ โดยหยุดรถให้คนที่จะข้ามถนนได้ไปก่อน ทำไปแล้วรู้สึกดีนะ
นี่คือความสุขเล็กๆจากการเป็นผู้รับ และขยายความสุขเล็กๆนั้นส่งต่อไปยังผู้อื่น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น